
ธัญพืชไทย คุณประโยชน์ไม่แพ้ชาติใดในโลก ของดีที่ไม่ควรพลาด
การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ กำลังเป็นกระแสนิยมในสังคมไทย ซึ่งการบริโภคเมล็ดธัญพืชจากต่างประเทศ อย่างเช่น คีนัว และเมล็ดเชีย ที่ค้นพบว่ามีประโยชน์มากมาย และกำลังเป็นที่สนใจของคนรักสุขภาพอย่างกว้างขวาง ถึงแม้จะมีราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับ ธัญพืชไทย ก็ตาม
ยกตัวอย่างเช่น คีนัว และเมล็ดเชีย เป็นพืชจากอเมริกาใต้ และอเมริกาเหนือพบมากใน เปรู โบลีเวีย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ โดยมีการค้นพบว่า คีนัว (Quinoa) มีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และไขมันดี ไฟเบอร์ และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งคุณประโยชน์คล้ายกับธัญพืชหลากสี ถั่วแดง ถั่วดำ ลูกเดือย สำหรับ เมล็ดเชีย (Chia Seed) เป็นพืชในกลุ่มเทศตระกูลเดียวกับกะเพรา หรือ มินต์ แม้ว่าเมล็ดเชียจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับคนบางกลุ่ม อาทิ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหาร และลำไส้ ไฟเบอร์จากเมล็ดเชีย ที่ขยายตัวในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นมากเกินไป จึงอาจกระตุ้นให้ตับอ่อนเร่งสร้างน้ำย่อยออกมาได้ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรบริโภคเพราะมีผลต่อแรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัวให้ต่ำลง (Diastolic blood pressure) อาจก่อให้เกิดอาการช็อก หรือ หมดสติได้ และสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่ควรบริโภคเพราะมีผลต่อสารอาหารในน้ำนมให้เปลี่ยนไปจากเดิม เป็นต้น
- ธัญพืชไทยมากคุณค่า มีอะไรบ้าง
ธัญพืชไทย 1.ลูกเดือย (job’s tears)
เป็นธัญพืชประเภทคาร์โบไฮเดรต แล้วยังเป็นพืชพื้นเมืองแท้ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเส้นใยอาหารสูง เป็นพืชตระกูลเดียวกับข้าว มีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะมีปริมาณของ คาร์โบ-ไฮเดรต 70.65% โปรตีน 13.84% ไขมัน 5.03% ใยอาหาร 0.23% แร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยบำรุงกระดูก มีอยู่ในปริมาณสูง รวมทั้งวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 โดยเฉพาะวิตามินบี 1 มีในปริมาณมาก ซึ่งช่วยแก้โรคเหน็บชาด้วย นอกจากนี้แล้ว ลูกเดือยยังมี กรดอะมิโน ยังมีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัว เช่น กรดโอเลอิค และกรดลิโนเลอิก รวมแล้วถึง 84%
ธัญพืชไทย 2. ข้าวหอมนิล (Purple Rice)
มีวิตามินบีรวม ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ขา แขนไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อโรคผิวหนังบางชนิดบำรุงสมอง ทำให้เจริญอาหาร ไนอาซีน ช่วยการทำงานของระบบประสาท และระบบผิวหนัง และธาตุเหล็กที่มีอยู่ในข้าวหอมนิลนี้ เมื่อเข้าไปในร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการบำรุงโลหิตได้ทันที
ธัญพืชไทย 3. ถั่วแดง (Red Kidney bean)
จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่ง โดยโปรตีนที่ได้จากถั่วแดงนั้นมีคุณค่าทางอาหารเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์เลยทีเดียว แถมยังไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย การรับประทานถั่วแดงนอกจากจะได้รับพลังงานแก่ร่างกายที่สูงแล้ว ยังทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นานอีกด้วย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีธาตุเหล็ก ที่จะช่วยบำรุงโลหิต วิตามินบีหลายชนิด และมีแคลเซียมสูง การรับประทานเป็นประจำสามารถช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันภาวะกระดูกเสื่อม และแคลเซียมยังมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ เป็นต้น
ธัญพืชไทย 4. ถั่วดำ (black bean)
มีสารฟลาโวนอยด์ หรือสารล้างพิษกรัมต่อกรัมสูงที่สุด รองลงมาจะเป็น ถั่วสีแดง น้ำตาล เหลือง และขาว ตามลำดับ เพราะในถั่วดำนั้นมีสารสำคัญอย่างแอนโทไซยานินส์ ซึ่งนับเป็นตัวล้างพิษชั้นดี โดยเมื่อเทียบกับการกินถั่วดำในปริมาณเท่ากันกับการกินส้มแล้ว ถั่วดำจะมีปริมาณสารล้างพิษมากกว่าในส้มถึง 10 เท่า กันเลยทีเดียว คือเทียบได้กับองุ่นและแอปเปิล แต่การทำให้ถั่วดำสุกนั้นก็จะสูญเสียตัวล้างพิษไปบ้าง แต่ก็ยังสามารถที่จะล้างพิษให้ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทคนิคการต้มถั่วดำควรนำมาคั่วเพื่อให้หอม แล้วแช่ในน้ำร้อนจัดทิ้งไว้ 3 ชม. หรือจะในน้ำธรรมดาทิ้งไว้ 1 คืน (หรือประมาณ 6 ชม.) แล้วค่อยนำมาต้ม วิธีนี้จะได้ถั่วต้มที่นุ่ม ไม่กระด้าง rice bran
ธัญพืชไทย 5. รำข้าว (rice bran)
ปลายเมล็ดข้าว หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า จมูกข้าว เป็นแหล่งรวมของวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งถ้าผ่านกระบวนการสกัดและผลิตอย่างมีมาตรฐานแล้ว มีวิตามินอีธรรมชาติ ช่วยให้ผิวเต่งตึง ยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ ทั้งยังเป็นสารต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอวัย แกมมาโอริซานอล เข้มข้นจากน้ำมันรำข้าวเมื่อผ่านกระบวนการพิเศษ จะให้คุณค่าจากสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ต้านการอักเสบ ลดคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ แถมยังปกป้องและลดการตีบตันของหลอดเลือด วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ ช่วยในเรื่องบำรุงประสาท เหน็บชา ช่วยระบบเมตาบอลิซึ่ม แร่ธาตุ อาทิ ฟอสฟอรัส สังกะสี แมกนีเซียม ช่วยเพิ่มพลังงาน เพิ่มการเผาผลาญ เสริมสร้างการทำงานของระบบฮอร์โมนและการเจริญเติบโตของสมอง
ทั้งนี้ การบริโภคธัญพืชเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด เราควรเลือกธัญพืชที่ยังไม่ผ่านกระบวนการขัดสี เพราะ ในธัญพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการผลิตจะมีสารอาหาร มากกว่าธัญพืชที่ผ่านการขัดสี เช่น ในข้าวขัดขาวคุณค่าทางโภชนาการของมันเหลือไม่ถึงครึ่งของข้าวกล้อง โดยแมกนีเซียมในข้าวกล้องจะมีมากกว่าข้าวขัดขาวถึง 70%
แท้จริงนั้นการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพควรเริ่มจาก อาหารในท้องถิ่น อย่าง อาหาร ผักพื้นบ้าน หรือขนมไทยพื้นบ้าน นอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ส่วนใหญ่ยังมีส่วนประกอบของพืชผัก หรือสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ของไทยอยู่ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ช่อม่วง เมนูจากดอกอัญชันที่คุณสามารถปลูกได้ง่ายบริเวณรั้วบ้าน ก็มีสรรพคุณที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือสาร “แอนโทไซยานิน” ซึ่งจะมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีมากขึ้น เช่น ไปเลี้ยงบริเวณรากผม ซึ่งจะช่วยทำให้ผมดกดำ เงางาม หรือไปเลี้ยงบริเวณดวงตา จึงช่วยบำรุงสายตาไปด้วยในตัว
เราควรจะส่งเสริมให้มีการปลูกผักริมรั้วมากขึ้น แม้ว่าจะไม่มีบริเวณที่จะปลูกต้นไม้ หรือผักไว้กินได้มากนัก เนื่องจากการถูกจำกัดเรื่องสถานที่ แต่เราสามารถปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง โดยการปลูกไว้ในกระถาง เช่น โหระพา พริก แมงลัก กะเพรา ชะพลู ผักแพว ผักชี เป็นต้น ซึ่งปลูกง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อีกทั้งยังปลอดภัยจากสารพิษอีกด้วย
การดูแลสุขภาพของตนเองด้วยวิธีธรรมชาติ มีความพอดี เป็นทางเลือกที่พึงปฏิบัติ เพียงมีวินัยต่อตัวเราเอง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็สุขภาพดีไร้โรคภัยได้
ท่านใดสนใจ ผลิตอาหารเสริม กับ อินโนว่าแล็บโออีเอ็ม ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้หลายช่องทางดังนี้
โทร : 02-016-2226 | ไลน์ : @innovalab | เฟสบุ๊ค : innovalab OEM