
เคล็ดไม่ลับ โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยอะไรได้มากกว่า หน้าเรียว
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) คือเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่ง ที่สร้างจาก แบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษแก่มนุษย์ หากได้รับในจำนวนมากๆ เช่น จากอาหารกระป๋องที่ปนเปื้อนไปด้วยเชื้อตัวนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จากการที่กล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน ผู้ป่วยจึงหยุดหายใจ
จริงๆ แล้ว Botulinum toxin มีทั้งหมด 7 ชนิด ตั้งแต่ A-G แต่ Type A เป็นชนิดที่สามารถออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดในร่างกายมนุษย์ ในท้องตลาดจึงมีแต่ Type A โบทูลินั่ม ท็อกซิน ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ กล้ามเนื้อจึงคลายตัว หรือ เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อเล็กๆนั้น ซึ่งแพทย์ทราบมานานหลายสิบปีแล้วว่าหากฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อในปริมาณน้อยๆ โบ ท็อกซ์ (Botox) หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน จะทำให้กล้ามเนื้อ “คลายตัว” ดังนั้นในยุคแรกๆ จักษุแพทย์จึงนำโบทูลินั่ม ท็อกซิน มาฉีดเพื่อรักษาโรคตาเข ตาเหล่ และโดยบังเอิญจากการฉีดรักษาในบริเวณรอบดวงตานี้เอง ก็ทำให้แพทย์พบว่าริ้วรอยบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากหว่างคิ้วและรอบดวงตาดีขึ้นด้วย
ต่อมาการฉีด โบ ท็อกซ์ (Botox) หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อประโยชน์ในด้านความสวยงามตามมาอย่างแพร่หลาย และมีเทคนิควิธีการต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำ ผู้รับการรักษาอายุเท่าใด ซึ่งการที่ผลการรักษาอยู่ไม่ถาวรนั้น ที่จริงก็อาจจะนับได้ว่าเป็นข้อดี เพราะหากผลลัพธ์ที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ในที่สุดจะค่อยๆ หายไปเองได้ ข้อเสียก็คือสิ้นเปลือง เพราะหากได้ผลดี ถูกใจก็ต้องมาฉีดซ้ำเรื่อยๆ
ประโยชน์ในด้านความงามของ โบ ท็อกซ์ (Botox) ในปัจจุบัน
- โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนในหน้าที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เพราะสีหน้าของคนเราที่เปลี่ยนไป เกิดจากการขยับตัวการทำงานของกล้ามเนื้อ
- การยิ้ม ซึ่งจะทำให้เกิดรอยตีนกา และรอยย่นรอบดวงตา
- การขมวดคิ้ว ซึ่งจะทำให้เกิดรอยย่นบริเวณหน้าผาก และรอยย่นระหว่างคิ้ว
- รอยย่นรอบปาก ร่องแก้ม และลำคอ
- โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยการปรับโครงหน้า(ลดกราม) กล้ามเนื้อกรามเป็นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เมื่อเราฉีดโบทอกไปยับยั้งการทำงานของกล้ามนื้ไปสักระยะ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน ก็จะมีขนาดเล็กลง ทำให้มุมกรามของเราเล็ก จึงมองเห็นหน้าเรียวลงได้
- โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยลดขนาดน่อง
- โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยปรับรูปคิ้วลักษณะของคิ้วที่เป็นอยู่ เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงต้านกันตามหลักกายวิภาค เราสามารถออกแบบให้การยับยั้งกล้ามเนื้อในบางจุด ก็จะสามารถทำให้รูปคิ้วเปลี่ยนไปได้
- โบท็อกซ์ (Botox) ช่วยลดปริมาณเหงื่อที่รักแร้และผ่ามือ
ข้อดีของการฉีด โบ ท็อกซ์ (Botox)
- โบ ท็อกซ์ (Botox) เป็นสารที่ปลอดภัย เพราะสามารถสลายไปเองด้วยร่างกายของเราทั้งหมด ไม่ตกค้าง
- ใช้เวลาในการฉีด โบ ท็อกซ์ (Botox) เพียง 5 – 10 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
- ไม่ต้องพบกับข้อเสียจากการ ผ่าตัด เช่น บวม, ปวดแผล, มีแผลเป็น หรือ ข้อแทรกซ้อนอื่นๆ ที่รุนแรง
- ใช้ยาในปริมาณเพียงเล็กน้อยจากการฉีด และใช้เข็มที่มีขนาดที่เล็กที่สุดในการฉีด ซึ่งจะทำให้รู้สึกเหมือนมดกัดเท่านั้น
- เห็นผลเร็ว เพียงไม่กี่วันคุณจะรู้สึกได้ว่า ริ้วรอย หายไป
- สามารถใช้ได้ดีทั้ง ผู้หญิง และผู้ชาย
ข้อห้ามของการฉีด โบ ท็อกซ์ (Botox)
- คนที่แพ้ โปรตีนอัลบูมิน หรือ โบ ท็อกซ์ (Botox)
- คนที่ให้นมบุตร หรือ อยู่ระหว่างตั้งครรภ์
- คนที่เลือดออกง่ายผิดปกติ
- คนที่มีความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้ออยู่แล้ว เช่น มัยแอสทีเนีย myasthenia gravis หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอื่น
- ยาบางตัวมีผลต่อโบ ท็อกซ์ (Botox) เช่นยากลุ่มยาแอนติไบโอติกส์ ควินิน ฯลฯ
คำแนะนำหลังฉีด โบ ท็อกซ์ (Botox)
- ภายหลังฉีด โบ ท็อกซ์ (Botox) ควรอยู่ในท่านั่ง หรือท่ายืนในเวลาประมาณ 4 ชม. เพื่อป้องกันการไหลของยาไปที่อื่น
- อาจมีรอยจ้ำๆ เลือดเล็กๆปล่อยไว้ เดี๋ยวจะค่อยๆหายไปเอง
- ไม่ควรอบซาวน่า, ทำเลเซอร์ หรือ ให้หน้าโดนความร้อนประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่อย่างนั้น โบ ท็อกซ์ (Botox) จะสลายก่อนจะออกฤทธิ์เต็มที่
- ห้าม ทำทรีตเม้นท์ด้วยเครื่องที่เกี่ยวกับการผลักยา 2 สัปดาห์ และห้าม นวดหน้าแรงๆ เพราะอาจจะผลักโบท็อกซ์ (Botox) ให้ลงไปลึกเกินกว่าที่เราต้องการ ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมาได้ เช่น ทำให้หนังตาตก เป็นต้น
- อาจมีอาการตึงหนักหน้าใน 3-4 วัน เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องกังวล อาการจะหายไปใน 1-2 สัปดาห์
ในการฉีด โบท็อกซ์ (Botox) หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่เป็นจำนวนมาก ในต่างประเทศ พบว่าส่งผลอันตรายถึงชีวิต เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นส่วนมากมักเป็นแบบเฉพาะที่
- ปวดกรามคือ มักจะมีอาการปวดตรงกรามอยู่บ่อยๆ และกล้ามเนื้อมุมกราม จะฝ่อลงอย่างเห็นได้ชัด
- เคี้ยวอาหารได้ลำบากมากขึ้นโดยเฉพาะอาหารที่มีความยืดหยุ่น แข็ง หรือมีความเหนียวสูง
- ข้อต่อระหว่างขากรรไกรหลวมเวลาอ้าปากกว้างๆ แล้วหุบปากเข้าจะเหมือนมันไม่ลงล็อค ที่ข้อต่อขากรรไกร ของคุณสาวๆ บางคนอาจรู้สึกปวดกล้ามเนื้อ ในบริเวณขากรรไกรบ้างเป็นบางครั้ง เพราะขากรรไกร ที่ทำหน้าที่ยึดข้อต่อ ไม่แข็งแรงเท่าเดิม
- หน้าไม่สมส่วนสำหรับคุณ บางคนเมื่อได้ทำการฉีดสารโบท็อกซ์ไปได้สักพัก ก็จะพบว่า ใบหน้าด้านซ้ายขวาไม่เท่ากัน ซึ่งเกิดขึ้นเพราะ เวลาที่คุณเคี้ยวหารที่เหนียว หรือแข็ง มัดกล้ามเนื้อในบริเวณกราม จะขยายตัวขึ้นตามไปด้วย หากคุณ ชอบเคี้ยวอาหารเพียงข้างเดียวบ่อยๆ ก็จะทำให้มัดกล้ามเนื้อที่โตขึ้นมากกว่าอีกข้าง จนเกิดความไม่สมดุลของรูปหน้าในที่สุด
- ยิ้มแล้วปากเบี้ยวส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ผิดตำแหน่ง โดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ
- แก้มหย่อนคล้อยมักพบกับสาวๆ ที่มีไขมันที่สะสมอยู่บริเวณแก้มเยอะ เมื่อได้ทำการฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เข้าไปในบริเวณกราม ในส่วนของกล้ามเนื้อกรามจะเล็กลง แต่ไขมันที่แก้ม และข้างๆ มุมปากจะไม่ได้เล็กลงตามไปด้วย ก็จะทำให้แก้มดูหย่อนคล้อยลงมา
- หนังตาตกหางคิ้วกระดก หน้าผากตกและตึง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบนใบหน้านั้น โดยส่วนใหญ่ พบจากการที่โบท็อกซ์ (Botox) แพร่กระจายไปยังกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมาย ของการฉีดเพื่อทำให้หน้าเรียว ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น ถ้าคุณสาวๆ นอนราบภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง หรือได้ทำการบีบนวดบริเวณที่ทำการฉีดหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ใหม่ๆ เพราะว่าจะทำให้โบท็อกซ์ (Botox) เกิดการไหลย้อน หรือการไหลไปยังมัดกล้ามเนื้ออื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง
- รู้สึกหน้าแข็งไปทั้งหน้าใบหน้าแล้วจะรู้สึกตึงและขยับ บังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ดังใจ อาการก็จะค่อยๆ หายไปใน 1-2 สัปดาห์
- ใบหน้าบางส่วนเกิดเป็นอัมพาธทำให้ใบหน้าดูไร้อารมณ์ ไม่สามารถดูออกได้ว่า กำลังดีใจหรือโกรธอยู่ ซึ่งจะเป็นอาการชั่วคราวและไม่ถาวร และจะค่อยๆ หายไปตามระยะเวลา
- เกิดการแพ้ตัวยาทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำ ปวดหัว คลื่นไส้ หรือจะมีอาการผื่นคัน ในบริเวณที่ทำการฉีด เป็นต้น
- หน้าเรียวขึ้นเพียงไม่กี่เดือนก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมโดยปกติแล้ว โบท็อกซ์ (Botox) จะออกฤทธิ์ช่วยทำให้ใบหน้าเรียว ในประมาณ 3-6 เดือน หลังจากนั้น สาวๆสามารถทำการฉีดซ้ำได้ เพื่อรักษาโครงหน้าให้ยังคงเรียวเข้ารูปเอาไว้ แต่สำหรับบางคนที่เลือกฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ที่เป็นของปลอม หรือสินค้าที่ด้อยคุณภาพ นอกจากฤทธิ์ของสารจะไม่คงอยู่ยาวนานเหมือนปกติ ทั้งยังเป็นอันตรายต่อหน้าสวยๆ หล่อๆด้วยนะคะ
ยี่ห้อของ Botulinium Toxin Type A นะคะ จริงๆ แล้ว โบ ท็อกซ์ (Botox) มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ และมาจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกา เกาหลี เยอรมัน สเปน แต่ที่มีเข้ามาในประเทศไทย ที่ได้คุณภาพ มีตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้อง และที่สำคัญคือ ผ่าน อย.ประเทศไทย มีดังนี้
- Botox (Allergan, USA)
- Dysport (Ipsen, Ireland)
- Neuronox (Medy-Tox Inc., South Korea)
- BTXA(HUGH, Hong Kong)
ฯลฯ